แอลกอฮอลล์สำหรับฆ่าเชื้อ สามารถนำมาใช้ฉีดพ่นได้หรือไม่

Home / Activities

แอลกอฮอลล์สำหรับฆ่าเชื้อ สามารถนำมาใช้ฉีดพ่นได้หรือไม่

แม้ว่าแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นตั้งแต่ 70 เปอร์เซ็นต์คือใครจะสามารถฆ่าเชื้อ covid19 ได้ดีในระดับหนึ่งแต่ผู้ใช้งานต้องมีความเข้าใจเพราะเราก็พอจะมีให้เลือกใช้หลายรูปแบบและมีความเข้มข้นที่ไม่เหมือนกันเพราะไม่มีคุณสมบัติในการใช้งานที่จะฉีดพ่นได้เพียงแค่บางส่วน เพื่อทำให้คนเข้าใจว่าแอลกอฮอล์สำหรับฆ่าเชื้อสามารถใช้ในการฉีดพ่น บริเวณใดได้บ้าง

การใช้งานสเปรย์แอลกอฮอล์ สำหรับการฉีดพ่นฆ่าเชื้อในปัจจุบัน จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ประเภทเอทิลแอลกอฮอล์และไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ จะมีลักษณะเป็นของเหลวเหมือนกัน ไม่มีสี สามารถระเหยง่ายภายในอุณหภูมิของห้อง พร้อมการทำลายเชื้อต่าง ๆ ทั้งเชื้อไวรัส, เชื้อรา, เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อวัณโรคอย่างครบถ้วน แต่ในขณะเดียวกันแม้จะฆ่าเชื้อต่าง ๆ ได้ดี แต่จะไม่สามารถเข้าทำลายสปอร์ของเชื้อแบคทีเรีย จึงทำให้ประสิทธิภาพของการฆ่าเชื้อลดลงอย่างชัดเจน ดังนั้นการเลือกใช้ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ จึงไม่ควรต่ำกว่า 60% แต่ถ้าจะให้ดีต้องอยู่ที่ประมาณ 70% ขึ้นไป

โดยเฉพาะการฆ่าเชื้อไวรัส ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์จะต้องเป็นไปอย่างเหมาะสมในช่วงระหว่าง 60-80% ปริมาตรของเอทิลแอลกอฮอล์จะฆ่าเชื้อไวรัสที่มีไขมันหุ้มได้ดี เช่น เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่, เชื้อไวรัส Covid19 และเชื้อไวรัสเริม เป็นต้น ทั้งยังสามารถทำลายเชื้อไวรัสตับอักเสบบีได้ดี ส่วนไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์จะทำลายเชื้อไวรัสเฉพาะที่มีไขมันหุ้มเท่านั้น แต่ในขณะเดียวกันความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ที่มีสูงเกินไป อาจจะยิ่งทำให้เกิดการระเหยที่เร็วมากขึ้น จนมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอต่อการดูดซึมของเยื่อหุ้มเซลล์ เชื้อจึงตายไม่หมด โดยเฉพาะในจุดที่ถือว่าเป็นสภาพแวดล้อมเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเชื้อด้วยแล้ว ยิ่งแทบไม่มีผล

ที่สำคัญคือแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นสูง จะนำพาให้ผิวของผู้ใช้งานแห้งและเกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย ดังนั้นความเหมาะสมของการใช้งาน จึงควรอยู่ในระดับที่ดี ไม่ควรสูงกว่า 90% ขึ้นไป เพราะแม้จะมีความเข้มข้นแต่จะระเหยเร็วมาก จึงอาจจะไม่ช่วยในการฆ่าเชื้อที่ดีเพียงพอ ส่วนของแอลกอฮอล์แบบ Food Grade ที่มีผสมอยู่ภายในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะมีความเข้มข้นต่ำกว่า 70% จึงไม่สามารถนำมาฆ่าเชื้อใด ๆ โดยเฉพาะเชื้อไวรัส Covid นอกจากนี้การฉีดพ่นแอลกอฮอล์ มักจะนิยมใช้สำหรับร่างกายของมนุษย์ เพราะระเหยเร็วและไม่มีการตกค้างมากนัก พร้อมให้การฆ่าเชื้อที่บริเวณมือนิ้ว เล็บ และผิวได้อย่างดีเยี่ยม

แต่ในขณะเดียวกันการฉีดพ่นใส่เสื้อผ้าหรือหน้ากากอนามัยอาจจะไม่ได้ผล โดยเฉพาะความเชื่อของการฉีดพ่นลงหน้ากากอนามัยที่ไม่ถูกต้อง เพราะจะยิ่งไปลดประสิทธิภาพสารเคลือบด้านนอกของหน้ากากอนามัยให้ลดลงกว่าเดิม นอกจากนี้การฉีดพ่นโดยทั่วไป ยังอาจจะก่อให้เกิดสารตกค้างหรือการทำลายพื้นผิววัสดุต่าง ๆ ได้ ดังนั้นจึงต้องมีการแยกส่วนของน้ำยาฆ่าเชื้อให้ถูกต้องตามแต่ละวัสดุ ดังเช่นการทำความสะอาดพื้นผิวผ้าจะต้องซักภายในน้ำร้อนเท่านั้น ถ้าใช้เป็นเพียงแค่ฉีดพ่น จะช่วยไม่ได้มากหรืออาจจะไม่ช่วยเลยอีกด้วย

ช่องทางการติดต่อ

IG : carecleans

FB : Care Cleans

LINE : @carecleans

ติดต่อบริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรคได้ที่นี่ : http://carecleans.com/บริการ-ฉีดพ่น-ฆ่าเชื้อโร/

Share This:

Latest Post

โทร. 02 007 4525