บริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรค Archives - Page 10 of 19

ปืนฉีดพ่นแอลกอฮอลล์ ช่วยในการฆ่าเชื้อโรคหรือไม่

ปืนฉีดพ่นแอลกอฮอลล์ ช่วยในการฆ่าเชื้อโรคหรือไม่ หนึ่งในอุปกรณ์ที่ใช้ในการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อแอลกอฮอล์และกำลังได้รับความนิยมมาก คือ ปืนฉีดพ่นแอลกอฮอล์ที่ช่วยในเรื่องของการฆ่าเชื้อได้อย่างสะดวก แต่เกิดเป็นคำถามว่าสามารถจะช่วยฆ่าเชื้อได้จริงหรือไม่? เนื่องจากราคาค่อนข้างสูง และยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าปืนฉีดพ่นแอลกอฮอล์ จะสามารถทำงานเพื่อฆ่าเชื้อได้ดีจริงอีกด้วย ปืนแอลกอฮอล์หรือที่ถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเครื่องพ่นฆ่าเชื้อแบบนาโน จะมีลักษณะเป็นเครื่องที่สามารถพ่นออกมาเป็นละอองฝอย โดยจะใช้ชื่อตามคุณสมบัติว่า Ultra-Low Volume หรือ ULV ใช้ในการพ่นสารเคมีออกจากเครื่องด้วยละอองขนาด 0.1-50 ไมครอน ด้วยละอองฝอยที่มีขนาดเล็กเทียบเท่ากับละอองของสารคัดหลั่ง ที่ออกจากร่างกายมนุษย์อย่างน้ำลายและน้ำมูก จะถือว่ามีขนาดเท่ากัน จึงสามารถลอยอยู่ในอากาศได้นาน โดยเฉพาะในบริเวณที่เป็นห้องปิด จึงเชื่อกันว่าปืนแอลกอฮอล์จะสามารถช่วยพ่นฆ่าเชื้อได้จริง แต่ถ้าอยู่ในพื้นที่ปิดและมีผู้คนอยู่ภายในห้องนั้นด้วย อาจจะก่อให้เกิดอาการระคายเคืองได้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วยังไม่มีข้อมูลใดที่จะสามารถยืนยันได้ว่าปืนแอลกอฮอล์จะสามารถพ่นละอองฝอย เพื่อฆ่าเชื้อโควิดได้ ทั้งยังไม่มีหน่วยงานด้านสาธารณสุขแนะนำให้ใช้เครื่องนี้เป็นพิเศษ เนื่องจากการกำจัดเชื้อจำเป็นที่จะต้องเช็ดทำความสะอาดและการฉีดพ่น จากเครื่องที่ต้องมีประสิทธิภาพสูงเท่านั้น เพื่อทำให้เกิดการฆ่าเชื้อได้มากที่สุด นอกจากนี้การใช้ปืนแอลกอฮอล์ฉีดพ่น อาจจะยังทำให้เชื้อบนพื้นผิวฟุ้งกระจายไปสู่ผู้อื่นได้อีกด้วย ผู้ที่สามารถฉีดพ่นฆ่าเชื้อได้ จึงจำเป็นต้องใส่ชุดป้องกันและจะต้องมีความรู้ความสามารถด้านการฉีดพ่นอย่างถูกต้อง รวมไปถึงน้ำยาที่ใช้จะต้องมีความเข้มข้นและเหมาะสม ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้แนะนำไว้ ซึ่งการแนะนำจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคจากสหรัฐอเมริกา ได้พูดถึงการฉีดพ่นละอองฝอยเพื่อฆ่าเชื้อ จะต้องทำอย่างระมัดระวังสูงและจะต้องฉีดพ่นภายในพื้นที่อย่างรวดเร็ว จะต้องเป็นพื้นที่ไม่สามารถทำความสะอาดจากมือได้ พร้อมผู้พ่นยาฆ่าเชื้อจะต้องผ่านการอบรมแล้วเท่านั้น อุปกรณ์ต้องได้มาตรฐาน ทั้งยังต้องสวมใส่ชุด PPE เพื่อป้องกันอีกด้วย ช่องทางการติดต่อของเรา IG : carecleans FB : Care […]

การพ่นยาโควิด ส่งผลอะไรต่อร่างกายของเราหรือไม่

การพ่นยาโควิด ส่งผลอะไรต่อร่างกายของเราหรือไม่ การพ่นยาโควิดหรือน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัส อาจจะส่งผลต่อร่างกายของมนุษย์ สัตว์เลี้ยง และสิ่งแวดล้อมได้ เพราะมีสารเคมีอยู่ภายใน ดังนั้นจึงต้องมีการระบุให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยเท่านั้น ซึ่งคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการออกกฎหมายเรื่องผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรค สำหรับการฉีดพ่นที่จะต้องตรงตามหลักของทางกระทรวง เพื่อทำให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้ที่อยู่อาศัยภายในอาคารนั้น ๆ มากที่สุด ต้องมีการแยกน้ำยาสำหรับฉีดพ่นร่างกายของบุคคลกับผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อภายในสถานที่ต่าง ๆ อย่างชัดเจน ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ พร้อมการออกคำแนะนำในการใช้สารเคมีเพื่อฆ่าเชื้อตอนทำลายเชื้อโรค ดังนี้ สารเคมีสำหรับการฆ่าเชื้อหรือทำลายเชื้อโรคตามสถานที่ต่าง ๆ จะต้องได้รับใบอนุญาตหรือมีการขึ้นทะเบียนจากหน่วยงานรัฐ ภายใต้บทบัญญัติของพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 มาแล้วเท่านั้น คุณภาพของน้ำยาฆ่าเชื้อหรือทำลายเชื้อโรค จะต้องเป็นสารเคมีชนิดที่มีความปลอดภัยต่อผู้คน และจะต้องตรงตามการอนุญาตหรือได้ขึ้นทะเบียนไว้จากกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรคและกรมอนามัย การใช้สารเคมีฆ่าเชื้อ จะต้องถูกแบ่งออกเป็นการใช้อย่างเหมาะสมต่อพื้นผิววัตถุ แต่ต้องไม่มีฤทธิ์กัดกร่อนที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้ ถ้าใช้ในจุดที่จำเป็นจะต้องสัมผัสกับผิวหนังหรือร่างกายของมนุษย์โดยตรง จะต้องเลือกใช้แอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นร้อยละ 70 ทำความสะอาดเท่านั้น การนำสารเคมีมาใช้ จะต้องผ่านการศึกษาและการฝึกอบรมผู้ฉีดพ่นมาแล้วเท่านั้น น้ำยาฆ่าเชื้อหรือกำจัดเชื้อโรคและเชื้อไวรัสโควิด อาจจะยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพและร่างกายของมนุษย์ ดังนั้นจึงไม่ควรให้สัมผัสกับร่างกายโดยตรงและผู้ที่ทำการฉีดพ่นฆ่าเชื้อ จำเป็นจะต้องเพิ่มยาที่ได้รับการอนุญาตให้ใช้งานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีเอกสารระบุชัดเจน ไม่ใช้สารเคมีที่ก่อให้เกิดอันตรายและมีการระบุห้ามใช้อย่างเด็ดขาด แม้แต่การใช้รังสี UV ในการอบฆ่าเชื้อ จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดไว้ทั้งหมด ไม่เช่นนั้นจะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งานและผู้อยู่อาศัย รวมไปถึงสัตว์เลี้ยงและสภาพแวดล้อมอีกด้วย ช่องทางการติดต่อของเรา IG […]

เมื่อรับการฉีดพ่นเสร็จแล้ว ควรที่จะทำความสะอาดพื้นที่ต่าง ๆ ร่วมด้วยหรือไม่

เมื่อรับการฉีดพ่นเสร็จแล้ว ควรที่จะทำความสะอาดพื้นที่ต่าง ๆ ร่วมด้วยหรือไม่ สำหรับการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ เพื่อการกำจัดเชื้อไวรัส Covid-19 ตามสถานที่ต่าง ๆ เมื่อมีการทำความสะอาดพื้นที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว เรื่องที่ควรทำคือการทิ้งระยะเวลาไม่เข้าไปยุ่งในพื้นที่ฉีดพ่นประมาณ 1-3 วัน เพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าสารของน้ำยาฆ่าเชื้อจะหมดไปและไม่เกิดการตกค้าง ที่อาจจะเป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยได้ ถ้าคุณต้องการทำความสะอาดพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นอาคารสถานที่ ออฟฟิศ หรือที่อยู่อาศัย จำเป็นจะต้องเลือกผู้ให้บริการที่มีความรู้และความสามารถ ด้านการฉีดพ่นแบบทุกซอกทุกมุม มีการสวมใส่ชุด PPE ที่ปกคลุมผู้ฉีดมิชิด มีการใช้เครื่องพ่นคุณภาพและใช้น้ำยากำจัดเชื้อที่มีประสิทธิภาพสูง รวมไปถึงตัวผู้เข้ามาพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเอง จะต้องมีความรู้ในด้านการใช้น้ำยาฉีดพ่นตามพื้นผิววัสดุต่าง ๆ ดังนั้นถ้าคุณเกิดคำถามว่าหลังฉีดพ่นแล้ว ควรทำความสะอาดพื้นที่ต่าง ๆ ร่วมด้วยหรือไม่ แนะนำให้ทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบเท่านั้น แต่ถ้าเป็นพื้นที่ภายในที่มีการฉีดพ่นเสร็จไปแล้ว ควรทิ้งระยะเวลา 1-3 วัน หรือถ้าเป็นการอบโอโซนให้ใช้ระยะเวลาประมาณ 1-5 ชั่วโมง เพื่อทำให้เกิดประสิทธิภาพของการกำจัดเชื้อ ไม่ควรรีบเข้าไปทำความสะอาดพื้นที่ภายในหลังการฉีดพ่นเสร็จใหม่ ๆ เด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้คุณต้องเสี่ยงติดเชื้อโควิด หรือรับสารเคมีของน้ำยาฆ่าเชื้อไปแบบเต็ม ๆ หรืออาจทำให้ประสิทธิภาพของน้ำยาฆ่าเชื้อลดลงตามไปด้วย หลังการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ Covid19 เสร็จเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ควรทำคือการหลีกเลี่ยงใช้งานพื้นที่ฉีดตามคำแนะนำของผู้ที่มาฉีดพ่น พร้อมทำตามข้อเสนอแนะของทางบริษัทที่มาทำความสะอาด เพื่อทำให้เกิดประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อและไม่ต้องเสี่ยงต่อการรับสารตกค้างของน้ำยาฆ่าเชื้อแต่อย่างใด แต่ในปัจจุบันมีการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่มีความปลอดภัยมาอยู่แล้ว […]

การทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมที่ถูกต้องควรทำอย่างไร

การทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมที่ถูกต้องควรทำอย่างไร การทำความสะอาดพื้นที่หรือจุดสัมผัสร่วม ที่มีคนเข้าใช้งานเป็นจำนวนมาก สำหรับการป้องกันการติดเชื้อ Covid-19 ทั้งพื้นที่ส่วนบุคคลและพื้นที่สาธารณะ จะต้องมีการทำความสะอาดจากน้ำยาฆ่าเชื้อที่มีคุณภาพและวิธีการทำจะต้องถูกต้องตามแนวทางปฏิบัติ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ที่จะมีการกำหนดไว้ดังนี้ มีการทำความสะอาดจุดสัมผัสระหว่างวันบ่อยครั้ง เช่น ที่จับประตู ลูกบิดประตู ปุ่มกดลิฟท์ ราวบันได ราวจับภายในพื้นที่ โต๊ะ-เก้าอี้ และจุดสัมผัสร่วมอื่น ๆ ด้วยแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 70% หรือ Sodium Hypochlorite 1% จะต้องทำอย่างสม่ำเสมอทุก 1 ชั่วโมง พนักงานผู้ทำความสะอาด จะต้องมีการสวมหน้ากากอนามัย หรือการสวมหน้ากากผ้าร่วมกับ Face Shield ถุงมือ หมวกคลุมผม และรองเท้าบูทอย่างมิดชิด พื้นผิวของวัสดุต่าง ๆ ที่มีความแข็งแรง สามารถใช้การทำความสะอาดจากสเปรย์แอลกอฮอล์ ที่มีความเข้มข้น 70% หลังมีผู้มาสัมผัสหรือใช้บริการจะต้องมีการทำความสะอาดทันที ห้องน้ำที่จะมีจุดเสี่ยงสัมผัสจำนวนมากจากผู้คนภายนอก จะต้องมีการทำความสะอาดด้วยโซเดียมไฮโปคลอไรด์ 0.1% และการล้างซ้ำด้วยน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง การจัดตั้งจุดวางถังขยะ จะต้องมีฝาปิดและจะต้องมีการแยกขยะหน้ากากอนามัย จากขยะทั่วไป พร้อมการมัดปากถุงให้แน่น มีสัญลักษณ์ให้รู้ว่าเป็นหน้ากากอนามัยก่อนส่งกำจัด […]